16 สิงหาคม, 2555

การเลิกจ้างและการลาออก

       ส่วนที่ 1 การเลิกจ้าง
การเลิกจ้าง หมายถึง การกระทำของนายจ้างที่แสดงให้ลูกจ้างทราบว่า  นายจ้างไม่จ้างลูกจ้างทำงานต่อไปเพื่อให้ความสัมพันธ์ในฐานะนายจ้างกับลูกจ้างเป็นอันเลิกกัน
          
              1) การเลิกจ้างที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชย  ตามพระ     ราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 17ประกอบมาตรา 118 ซึ่งมีบทบัญญัติไว้ดังนี้
               มาตรา 17 สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะ                        เวลาในสัญญาจ้างโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
Spac1ในกรณีที่สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้าง อาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินสามเดือน
Spac1ในกรณีที่นายจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาจ้าง ถ้านายจ้างไม่ได้ระบุเหตุผลไว้ในหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง นายจ้างจะยกเหตุตาม มาตรา
119 ขึ้นอ้างในภายหลังไม่ได้
Spac1การบอกเลิกสัญญาจ้างตามวรรคสอง นายจ้างอาจจ่ายค่าจ้างให้ตามจำนวนที่จะต้องจ่ายจนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกำหนดที่บอกกล่าวและให้ลูกจ้างออกจากงานทันทีได้ และให้ถือว่าการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามวรรคนี้ เป็นการจ่ายสินจ้างให้แก่ลูกจ้างตาม มาตรา
582 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
Spac1การบอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรานี้ไม่ใช้บังคับแก่การเลิกจ้าง ตาม มาตรา
119 แห่งพระราชบัญญัตินี้ และ มาตรา 583 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 118 ให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างซึ่ง เลิกจ้างดังต่อไปนี้
(1) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งร้อยยี่สิบวัน แต่ไม่ครบหนึ่งปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่า ค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานสามสิบวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(2) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบหนึ่งปี แต่ไม่ครบสามปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน หรือไม่น้อยกว่า ค่าจ้างของการทำงานเก้าสิบวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับ ค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(3) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบสามปี แต่ไม่ครบหกปี ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายหนึ่งร้อยแปดสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานหนึ่งร้อยแปดสิบวันสุดท้าย สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(4) ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบหกปี แต่ไม่ครบสิบปีให้ จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสองร้อยสี่สิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานสองร้อยสี่สิบวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
(5) ลูกล้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบสิบปีขึ้นไป  ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามร้อยวันหรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทำงานสามร้อยวันสุดท้ายสำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
Spac1การเลิกจ้างตามมาตรานี้ หมายความว่า การกระทำใดที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตุอื่นใด และหมายความรวมถึงกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างเพราะเหตุที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป
Spac1ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น
Spac1การจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาตามวรรคสามจะกระทำได้ สำหรับการจ้างงานในโครงการเฉพาะที่มิใช่งานปกติของธุรกิจ หรือการค้าของนายจ้างซึ่งต้องมีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของ งานที่แน่นอนหรือในงานอันมีลักษณะเป็นครั้งคราวที่มีกำหนดการสิ้นสุดหรือความสำเร็จของงาน หรือในงานที่เป็นไปตามฤดูกาลและได้จ้างในช่วงเวลาของฤดูกาลนั้น ซึ่งงานนั้นจะต้องแล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกินสองปีโดยนายจ้างและลูกจ้างได้ทำสัญญาเป็นหนังสือไว้ตั้งแต่เมื่อเริ่มจ้าง
    ประกอบประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 ซึ่งมีบทบัญญัติไว้ดังนี้ 
           มาตรา 582 ถ้าคู่สัญญาไม่ได้กำหนดลงไว้ในสัญญาว่าจะจ้างกันนานเท่าไร ท่านว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาด้วยการบอกกล่าล่วงหน้า ในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่ง เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็อาจทำได้ แต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่าสามเดือน
           อนึ่ง ในเมื่อบอกกล่าวดั่งว่านี้ นายจ้างจะจ่ายสินจ้างแต่ลูกจ้างเสียให้ครบจำนวนที่จะต้องจ่าย  จนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกำหนดที่บอกกล่าวนั้นทีเดียวแล้วปล่อยลูกจ้างจากงานเสียในทันทีก็อาจทำได้
สรุปหลักการเลิกจ้าง
1 กรณีที่มีกำหนดระยะเวลาจ้าง ย่อมเป็นไปตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง คือ สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
       2 ในกรณีที่นายสัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดย
             2.1 บอกกล่าวล่วงหน้าให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ เมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากิน 3 เดือน
            2.2 การบอกกล่าวต้องทำเป็นหนังสือ
            2.3 เวลาที่เลิกสัญญา คือ เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวใด(หลังจากที่ได้บอกกล่าวโดยถูกต้องตาม2.1-2.2)
2) .การเลิกจ้างที่ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 ซึ่งมีบทบัญญัติไว้ดังนี้
           มาตรา 583 ถ้าลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายก็ดี หรือละเลยไม่นำพาต่อคำสั่งเช่นว่านั้นเป็นอาจิณก็ดี ละทิ้งการงานไปเสียก็ดี กระทำความผิดอย่างร้ายแรงก็ดี หรือทำประการอื่นอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตก็ดี ท่านว่านายจ้างจะไล่ออกโดยมิพักต้องบอก กล่าวล่วงหน้า หรือให้สินไหมทดแทนก็ได้

      ส่วนที่ 2 การลาออก
        การลาออก หมายถึง การกระทำของลูกจ้างที่แสดงให้นายจ้างทราบว่าลูกจ้างไม่รับจ้างทำงานให้แก่นายจ้างต่อไป
        แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 386 ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเลิกสัญญาโดยข้อสัญญา หรือโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การเลิกสัญญาเช่นนั้นย่อมทำด้วยแสดงเจตนาแก่อีกฝ่ายหนึ่ง
แสดงเจตนาดั่งกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น ท่านว่าหาอาจจะถอนได้ไม่
รุปสัญญาจ้างแรงงานมี  2 ประเภท
1.      สัญญาจ้างแรงงานที่มีกำหนดระยะเวลา  ะลาออกก่อนครบกำหนดตามสัญญาจ้างแรงงานนั้นก่อนไม่ได้ เช่น สัญญาจ้างแรงงานที่มีกำหนดระระเวลาจ้าง 3 เดือน จะลาออกก่อนครบ 3 เดือนนั้นก่อนไม่ได้ หากการลาออกก่อนนั้นก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างลูกจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
2.       สัญญาจ้างแรงงานที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา  ลูกจ้างสามารถลาออกได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
             ในกรณีที่สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้าง(การลาออก)อาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดย
   2.1 บอกกล่าวล่วงหน้าให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ เมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด แต่ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากิน 3 เดือน
  2.2 การบอกกล่าวต้องทำเป็นหนังสือ
  2.3 เวลาที่เลิกสัญญา คือ เมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวใด(หลังจากที่ได้บอกกล่าวโดยถูกต้องตาม2.1-2.2)
    สิทธิที่เกิดจาการลาออก
                  การที่ลูกจ้างลาออกย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะเรียกร้องค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าเสียหายดังเช่นกรณีที่นายจ้างเป็นฝ่ายเลิกจ้าง
                  แต่การลาออกอาจทำให้ลูกจ้างเกิดสิทธิอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือข้อบังคับเกี่ยวข้องกับการทำงานได้ เช่นสิทธิที่จะได้รับเงินบำเหน็จ เงินตอบแทนการทำงานนาน เงินสะสมส่วนสมทบของนายจ้าง เป็นต้น[1]










[1] เกษมสันต์  วิลาวรรณ.การเลิกจ้างและการลาออก .พิมพ์ครั้งที่7 วิญญูชน : กรุงเทพมหานคร, 2548.

36 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

การลาออก...มีหลายกรณี...ถึงแก่การพักผ่อน...หมดอายุงานทำงานแล้ว...ฯลฯ

Unknown กล่าวว่า...

รู้กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลิกจ้างและการลาออกว่าเรามีสิทธิอะไรบ้าง

Unknown กล่าวว่า...

การเลิกจ้าง เลิกไม่ดูท่าทีก็มีผิดกฏฃฎหมายด้วยเนาะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ออกกฎหมายเพื่อ ข่มเห่งประชาชน

supannee กล่าวว่า...

เป็นสาระ กฎหมาย ที่ประชาชนควรทราบ ได้ แง่คิดดี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าจะดีถ้านำไปเผยแพร่ให้มากที่สุด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้รู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสัญญาจ้าง ว่าถ้าหากจะลาออกก่อนครบกำหนดสัญญาจ้าง เราอาจโดนนายจ้างเรียกชดเชยค่าสินไหมทดแทนได้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะค่ะที่หาเนื้อหาดีๆที่มีสาระมาให้อ่าน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชอบมากเลยคร๊าบ........

Unknown กล่าวว่า...

ระวังจะถูกเลิกจ้างนะคะ

pensri chaidee กล่าวว่า...

มีกฏหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับการเลิกจ้างและการลาออกเพื่อรักษาสิทธิของเรา..มีประโยชน์นะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มีกฏหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับสิทธิของการถูกเลิกจ้างและการลาออกดีมากค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

เป็นสิ่งที่น่ารู้มากสำหรับลูกจ้างอ่ะค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

การเลิกจ้างงาน เรายังได้รับเงินชดเชยด้วยดีจัง

Unknown กล่าวว่า...

รูปหนังสือ มันบังเนื้อหานะค่ะ แก้ด้วย

Unknown กล่าวว่า...

กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลิกจ้างและการลาออก รู้ไว้ก็ดีนะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เนื้อหาดีมากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้สาระดีคับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รู้กฎหมายแบบนี้ก็ดีนะครับ จะได้รักษาสิทธิของตัวเองไม่ให้ถูกไล่ออกอย่างไม่ธรรม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับที่ทำให้รู้กฎหมายดีๆๆอย่างนี้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

การเลิกจ้างเมื่อครบกำหนดระยะสัญญาการจ้างจะได้รับค่าชดเชยจากนายจ้างไหมค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

การเลิกจ้างเมื่อครบกำหนดระยะสัญญาการจ้างจมีสิทธิได้รับค่าชดเชยจากนายจ้าง ตามมาตรา 118 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

หากมีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการเลิกจ้างและการลาออกก็สอบถามได้นะค่ะ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ ถ้าหากไม่รู้ก็จะพยามศึกษามาตอบให้ หรือไม่ก็หาหนังสือมาอ่าน ตามแหล่งอ้างอิงเลยนะค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำตอบ

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กฎหมายเป็นเรื่องใกล้ตัว ศึกษาไว้ก็ดีนะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถ้าเราถูกนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่ได้ทำอะไรผิดเราจะได้รับค่าชดเชยจากนายจ้างไหมครับ

Unknown กล่าวว่า...

นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างในกรณี ตาม 119 ถ้าไม่ได้ทำดังกรณี มาตรา 119 เราก็มีสิทธิเรีกค่าชดเชยกับานยจ้างได้ตามมตรา 118 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้สาระดีมากค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่อยากถูกนายจ้างเลิกจ้างเลยอ่ะ

Unknown กล่าวว่า...

สร้างบล้อกนี้ขึ้นมาเพื่ออะไรครับ

Unknown กล่าวว่า...

อยากแบ่งปันความรู้ที่ได้ศึกษามานะคะ และก็ยังเป็นการแบ่งความรู้ผ่านเทคโนโลยีซึ่งสอดล้องกับวิชาที่เรียนด้วย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทำได้ดีมากเลยค่ะ ทั้งเนื้อหาและการออกแบบบล็อก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นายจ้างแจ้งประกันสังคมว่าปลดออกแต่ไม่ระบุว่าปลดออกเพราะอะไรไม่สามารถรับเงินประกันสังตมได้เลยค่ะแล้วกฏหมายมาตาร119/118ที่ว่านายจ้างไม่ระบุชัดเจนอันนี้อันเดียวกันใหมค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ในกรณีลาออกจากงานถ้าไม่ได้มีเอกสารเซ็นยินยอมใดๆสามารถลาออกได้เลยหรือป่าวคะ เพราะที่บริษัทมีกฎว่าถ้าจะลาออกต้องลาล่วงหน้า3เดือนถึงจะได้เงินประกันคืนแต่ตอนแรกที่เข้างานตกลงกันว่าต้องลาล่วงหน้าแค่1เดือนถ้าใครลาออกก่อน3เดือนจะไม่คืนเงินประกันให้ค่ะ